การดูดวงกาลชะตาผู้เจ็บป่วย และการป่วยไข้ของผู้พยากรณ์

18 total views, 18 views today

การดูดวงกาลชะตาผู้เจ็บป่วย และการป่วยไข้ของผู้พยากรณ์
(บทความนี้ เพื่อเล่าเป็นความรู้ข้อมูล และบันทึกประสบการณ์ เผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้สนใจ)

เริ่มต้นประมาณวันที่ 4 กุมภาพันธ์ค่ะ

ได้รับแจ้งจากท่านผู้หนึ่งว่า ญาติผู้ใหญ่ของท่าน (ซึ่งต่อไปจะขอเรียกว่า “คุณป้า”) มีอาการเจ็บป่วยเข้าโรงพยาบาล โดยหกล้มมาก่อนหน้านั้นประมาณ 2-3 วัน ดูจากสภาพภายนอกก็ไม่มีอะไรรุนแรง แต่ว่าในตอนดึกของคืนที่ผ่านมา คุณป้ามีอาการหายใจติดขัด ญาติจึงรีบนำส่งโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง

ทางญาติผู้ใหญ่อีกท่าน จึงอยากจะขอให้ช่วยตรวจดูดวงชะตาผู้ป่วยสักนิด ว่ามีอะไรต้องระวังเพิ่มเติมอีกบ้างหรือไม่ และที่ท่านเข้ารับการรักษาครั้งนี้ จะหายดีในเร็ววันอย่างไร ฯลฯ

แต่เนื่องจากทางญาติๆ เอง ก็ไม่ทราบวันเดือนปีเกิดที่แท้จริงของคุณป้า บอกได้แต่เพียงปีเกิดนักษัตร ก็จึงเป็นอันว่า ไม่สามารถผูกดวงชะตาได้ชัดเจน จึงได้รับปากว่า จะผูกดวงกาลชะตาตรวจดูคร่าวๆ ให้

ในคืนนั้น ผู้พยากรณ์เองก็เริ่มมีอาการเจ็บคอนิดหน่อย คาดว่าน่าจะติดหวัดจากการทำธุระหลายอย่างในช่วงก่อนหน้านี้ ที่ต้องพบปะผู้คนจำนวนมากในวันเดียวกัน และได้ไปพักในสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งบังเอิญไปเจอฝุ่นละอองค่อนข้างมาก แต่ก็คิดว่าคงไม่เป็นอะไรมาก เพราะเคยเป็นแบบนี้ กินวิตามินซีหน่อย ดื่มน้ำมากๆ นอนเร็วขึ้น ก็จะหายปกติได้ในไม่ช้า

5 กุมภาพันธ์ 2560

ลงมือผูกดวงกาลชะตาให้กับคุณป้าท่านนั้น ตามที่ญาติขอมา ก็พบสิ่งที่น่าตกใจมาก เพราะในตำแหน่งดวงดาวต่างๆ นั้น มีดาวบาปเคราะห์บีบหน้าบีบหลัง และดาวฆาตปรากฏ เรียกได้ว่า “บีบทุกจุด”

ซึ่งก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ ว่าจะหนักขนาดนั้น เพราะทางญาติเองแจ้งว่า คุณป้านั้นปกติแล้วแข็งแรงดี เพิ่งมาหกล้มครั้งนี้ และไม่ได้มีอะไรรุนแรง ตอนไปหาหมอก็ความจำดี สมองดี พูดจารู้เรื่องทุกอย่าง มีรอยฟกช้ำบ้าง แต่ก็ไม่น่าจะมีอะไรร้ายแรง

นี่ก็คิดว่า เป็นได้ว่า การผูกดวงกาลชะตานั้น อาจจะมีอะไรที่ผิดพลาดได้ เพราะไม่ได้เป็นการผูกดวงวางลัคนาจากวันเดือนปีเกิดที่แท้จริง แต่ก็ยังไม่อาจจะทายเป็นอื่นได้ แต่เพื่อไม่ให้ญาติเองเสียกำลังใจ ก็จึงบอกไปสั้นๆ ว่า

“ค่อนข้างหนักค่ะ”

และอธิบายต่อทางโทรศัพท์ว่า จากดวงกาลชะตาแล้ว ดาวเบียนค่อนข้างหนัก อาการถือว่าวิกฤติ แต่ยังไง ขอให้ดูจากสถานการณ์จริงก่อน หรือถ้าได้วันเดือนปีเกิดจริง ก็ค่อยมาดูกันอีกครั้ง อีกอย่างหนึ่ง ทางโหราศาสตร์นั้น อันที่จริงไม่ควรจะดูผู้ป่วยที่ป่วยไข้รุนแรง ไม่เหมาะจะดูลึกไปกว่านี้ เพราะเกิดออกมาไม่ดีมากๆ ก็จะส่งผลกระทบทางลบได้

ทางญาติผู้ป่วยก็รับทราบในสิ่งที่บอกกล่าวไป

5 กุมภาพันธ์ เวลาประมาณ 20.00 น.

ญาติของคุณป้า ได้อัพเดทมาว่า “ไม่สบายใจเลยค่ะ สงสารคุณป้า ใส่อ็อกซิเจนทางปาก มัดมือมัดเท้า”

นี่ก็อ้าว เกิดอะไรขึ้น แล้วอาการท่านเป็นอย่างไร

ก็อัพเดทสถานการณ์ว่า คุณป้าท่านมีอาการหายใจไม่สะดวก แพทย์จึงให้อ็อกซิเจนช่วย และที่ต้องมัดมือมัดเท้า เพราะท่านไม่ยิมยอมให้ความร่วมมือง่ายๆ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่น่าเห็นใจจริงๆ เพราะท่านคงอึดอัดและไม่สบายตัวเอามากๆ

ก็จึงตรวจดูจากดวงกาลชะตา และได้ให้กำลังใจไปว่า

และเพิ่มเติมไปด้วยว่า

“อังคารคือใบหน้า หัว หน้าผาก ปาก ค่ะ เสาร์นี่ที่กระดูก ผิวหนัง แต่คุณป้าต้องระวังราหูอีกอย่าง”

“และขอให้ดูแลพิเศษตอนกลางคืน”

หลังจากนั้น ผู้พยากรณ์ก็เริ่มมีอาการตัวรุมๆ มากขึ้น เหมือนจะเป็นไข้ จึงแจ้งกับทางญาติคุณป้าว่า ถ้าอย่างไร จะดูเพิ่มเติมให้ในวันต่อไป

ต่อมาในตอนกลางคืน ญาติแจ้งว่า ได้วันเดือนปีเกิดของคุณป้ามาแล้ว แต่ก็ต้องตรวจทานกันอยู่หลายรอบ จนแน่ใจว่าจะเป็นวันเวลาอะไร ก็จึงได้ลงมือตรวจดวงชะตาของผู้ป่วยอีกครั้ง

จากดวงใหม่ที่ผูก มีจุดที่ต่างจากดวงกาลชะตาคือ เสาร์ไม่ให้โทษ แต่อังคารยังเป็นดาวฆาต จันทร์เป็นดาวมรณะ ศุกร์เป็นดาวอริ ให้ระวังที่หัว หน้าผาก ปาก ของผู้ป่วย อนึ่ง อาทิตย์เป็นกาลกิณี ให้ระวังที่ตาด้วย

6 กุมภาพันธ์ 2560

นำดวงผู้ป่วยมาพิจารณาอีกครั้งโดยละเอียด และได้ออกคำทำนายไปว่า

“อังคารเป็นดาวฆาต พุธเป็นเจ้าเรือนมรณะ ศุกร์เป็นเจ้าเรือนวินาสน์ อังคารเป็นเจ้าเรือนอริ พฤหัสเป็นกาลกิณี

ตอนนี้เสาร์เสวยอายุ จันทร์แทรก อังคารเจ้าเรือนอริและดาวฆาตเข้าในเรือนที่ 5 เป็นพินทุบาทว์ โดยย้ายมาเมื่อ 20 มกราคม จะอยู่ไปถึง 2 มีนาคม และจาก 2 มีนา – 13 เมษายน จะเป็นช่วงเฝ้าระวัง นวางค์ขาด

ดาวพุธเจ้าเรือนมรณะ ย้ายมาเมื่อ 3 กุมภา จะย้ายไปอีกวันที่ 22 กุมภา ช่วงนี้จะยังอ่อนแออยู่ ให้ระวังช่วงปลายๆ กุมภา – มีนา เมษายน”

อันที่จริงแล้ว ในการพิจารณาดวงนั้น ยังค่อนข้างบีบทุกจุด และกุมภาพันธ์-พฤษภาคม จะมีการโยกย้ายของดาวต่างๆ ซึ่งค่อนข้างส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยมาก อาทิ ดวงหนึ่งออก ดวงหนึ่งเข้า และผลัดกันให้โทษอยู่เนืองๆ จึงเป็นช่วงที่ต้องใช้ความพยายามในการรักษากันมาก

อย่างไรก็ดี มาตรฐานดวงเดิมของผู้ป่วยนั้น เป็นคนดวงแข็งคนหนึ่ง และก็ยังมีดาวหลายดวงที่ดีอยู่ คือให้โทษ แต่ก็มีจุดผ่อนหนักผ่อนเบา แต่ไม่หนักมาก จึงได้ให้กำลังใจญาติไปอีกว่า

“ดูดาวหลายดวงยังดีอยู่ ให้โทษ แต่ไม่หนักมาก ตอนนี้ดาวอังคารให้โทษ แต่เป็นดาวลัคนาตัวเอง คือเจ็บตัวเพราะตัวเอง แต่ก็จะยังดีอยู่”

ทีนี้ ก็มีเหตุการณ์อย่างหนึ่งเกิดขึ้น

ในตอนดึกของคืนนั้น ผู้พยากรณ์ได้รับการสื่อสารจาก “พลังงาน” สิ่งหนึ่ง ที่มาในรูปของความฝัน

ทางญาติได้ตอบมาว่า ขณะนี้ มีลูกชายของคุณป้าได้เข้ามาดูแลคุณป้าอย่างเต็มที่ และไม่ทราบว่า ถ้าเอาดวงของลูกชายมาดูประกอบกันจะได้มั้ย เผื่อจะมองเห็นอะไรมากขึ้น ระหว่างดวงแม่ลูก

ก็จึงได้รับปากว่า งั้นจะตรวจดวงชะตาของลูกให้ด้วย เผื่อจะเห็นอะไรชัดขึ้น

7 กุมภาพันธ์ 2560

ผู้พยากรณ์ เริ่มมีอาการหวัดหนักขึ้น และร่างกายเริ่มอ่อนเพลีย แต่ก็ยังคงติดภารกิจนี้อยู่ เพราะทางญาติเองก็เริ่มกังวลใจ ว่าอาการของคุณป้าไม่ดีขึ้นเลย ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าเป็นปกติดี

ก็จึงได้ลงมือตรวจดวงของบุตรชายคุณป้า และก็พบสิ่งที่น่าตกใจว่า ดวงของบุตรชายกับผู้เป็นแม่นั้น ราศีลัคนาเดียวกัน ดาวที่กำลังให้โทษต่างๆ เหมือนกันหมด แทบจะเหมือนดวงฝาแฝด เพราะฉะนั้น อะไรที่เกิดกับแม่ก็จะเกิดกับลูก หรือต่างมาฉุดรั้งดวงกันและกัน ถ้าหนักก็จะพากันหนักไปด้วยกัน

แต่ก็ไม่เหมาะจะทำนายในทางที่ร้ายแรง จึงได้ให้คำพยากรณ์ไปว่า

“ไม่ค่อยดีนักค่ะ ดวง…(ชื่อบุคคล) มีดาวพุธเป็นดาวมรณะ เรือนมรณะในราศีเมถุน ตอนนี้ดาวจันทร์ (แม่ของเจ้าชะตา) เข้าอยู่ในเรือนมรณะ เป็นพินทุบาทว์ กำลังอ่อนแอ ให้ระวังที่สุด ช่วง 7-9 กุมภานี้

และลัคนาของจรของลูกชาย ดาวพุธเสวยอายุ ดาวพุธแทรก เป็นกาลกิณีจร และเป็นดาวมรณะ น่าจะหนักอยู่มากค่ะ ดวงตกหนักเหมือนกัน ดาวพุธแทรกไปจนถึงมกราคม 2561 ถึงจะเปลี่ยน ดาวเสาร์จะเข้ามาแทน จะมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องที่อยู่ หรือสภาพแวดล้อมชีวิต

เอาเป็นว่า ดวงลูกชายก็ไ่มค่อยดี ดวงตกหนัก ให้ระวังที่สุด 7-9 กุมภานี้เช่นกัน

คุณป้าและลูกชาย ลัคนาเดียวกัน ดาวมรณะเดียวกัน ตอนนี้ดาวพุธมรณะเข้าในเรือนที่ 3 (สหัชชะ) คือสร้างความสูญเสียให้กับญาติพี่น้อง…”

คำว่า สร้างความสูญเสียให้กับญาติพี่น้อง

คือการบอกกล่าวโดยอ้อมๆ ว่า อาจจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้นได้กับผู้ป่วยและบุตรชาย

แต่โดยจรรยาโหรแล้ว ไม่อาจจะทำนายไปมากกว่านั้นได้ เพราะเป็นข้อห้ามสำคัญ

เท่าที่ได้ดูไป ก็ค่อนข้างเจาะลึกมากแล้ว และมีความรู้สึกเห็นใจในชะตากรรมของผู้ป่วยกับบุตรชายมาก

** อนึ่ง ผู้พยากรณ์ได้ให้ทางบิดาช่วยตรวจทางวิชาของท่าน ก็ออกมาตรงกันว่า มีเรื่องของเจ้าที่ด้วย

แต่ทางบิดานั้น ตำราท่านได้กล่าวว่า ผู้ป่วยจะไม่อาจรอดพ้นการสิ้นอายุขัยได้ ซึ่งข้อนี้บิดาก็ได้บอกว่า ไม่น่าจะฝืนพรหมลิขิตได้จริงๆ เพราะท่านดูถึงสามตำราด้วยกัน ก็ออกมาตรงกันหมด

ผู้พยากรณ์ (ซึ่งเริ่มมีอาการหวัดหนักขึ้นเรื่อยๆ จนเริ่มพูดมากไม่ได้ จะไอตลอดเวลา) จึงได้ตัดสินใจคุยโทรศัพท์กับทางบุตรชาย เท่าที่จะพูดได้ และแนะนำไปว่า

ในทางพิธีกรรม แนะนำให้ทำบุญสะเดาะเคราะห์ สืบชะตาให้กับป่วย ให้ลองหาพระหรือผู้มีความรู้ทำให้ และให้ไปขอขมาเจ้าที่ในบ้าน ขอให้ผู้ป่วยได้กลับมาอยู่บ้านในเร็ววัน

“ยังไง ให้ผ่านวันที่ 9 ไปให้ได้ ถ้าผ่านวันที่ 9 ไปได้ ให้พยายามผ่าน 2 มีนา ถ้าผ่าน 2 มีนาไปได้ ให้ผ่าน 31 พฤษภาคม แล้วจากนั้นจะพ้น ขอให้เน้นที่การรักษาคนไข้ให้ฟื้นตัวก่อน เอาคนไข้กลับมาก่อน และถ้าเป็นไปได้ ขอให้ย้ายโรงพยาบาล”

8 กุมภาพันธ์ 2560

และตัวผู้พยากรณ์เองกำลังเริ่มเป็นไข้หนักขึ้นเรื่อยๆ
ผู้พยากรณ์ตัดสินใจประกอบพิธีกรรมสืบชะตาเสดาะเคราะห์ให้กับผู้ป่วย โดยทำร่วมกับบิดา โดยให้ทางญาติส่งเสื้อผ้าข้าวของของผู้ป่วยมาให้ ทางญาติก็รีบส่งด่วนมาทางคาร์โก้ การบินไทย และผู้พยากรณ์ก็จัดเตรียมข้าวของกันโดยเร่งด่วนเป็นกรณีพิเศษ

ในการนี้ บิดาของผู้พยากรณ์ ก็ได้แจ้งให้ทางญาติทราบไว้ก่อนว่า อาจจะได้ผลหรือไม่ได้ผลก็ได้ เพราะเป็นการทำพิธีแบบเร่งรัด ต้องใช้สิ่งของแทนตัวบุคคล อีกทั้งเจ้าชะตาเคราะห์หนักจริงๆ แต่ก็จะพยายามช่วยเท่าที่ช่วยได้

ทันทีที่ของผู้ป่วยมาถึง ก็ได้เริ่มดำเนินการทำพิธีให้ในทันที

ในคืนนั้น ตอนดึก ได้รับแจ้งจากญาติว่า ผู้ป่วยอาการทรุดหนัก กำลังวิกฤติมาก ญาติทุกคนอยู่พร้อมหน้า และกำลังสวดมนต์ให้ ไม่ทราบจะผ่านคืนนี้ได้มั้ย

9 กุมภาพันธ์ 2560

ญาติผู้ป่วยแจ้งมาว่า คุณป้าผ่านเมื่อคืนมาได้แล้ว แต่ก็ยังอาการทรงๆ อยู่

และหลังจากนั้น ก็แจ้งอีกว่า อาการดีขึ้น ลดยานอนหลับไปตัวหนึ่งแล้ว และญาติก็มีความหวังกันมากขึ้น

10-15 กุมภาพันธ์ 2560

ผู้ป่วยเริ่มมีอาการดีขึ้น แต่ผู้พยากรณ์นั้น อาการแย่ลง เพราะเริ่มมีไข้หนักมากขึ้น และเริ่มเจ็บตา

ระหว่างนั้น ก็ยังอัพเดทสถานการณ์กันอยู่เรื่อยๆ และผู้พยากรณ์เองก็พยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

** ทางญาติผู้ป่วยอัพเดทว่า เกิดเหตุการณ์ มีสุนัขที่บ้านคุณป้าตายไปตัวหนึ่ง และตัวญาติเองฝันร้ายว่า มีการต่อสู้กันกับใครก็ไม่ทราบ แล้วโดนเสกแมลงอะไรอย่างหนึ่งเข้าไปในตัว แต่ก็สามารถเอาตัวรอดมาได้, คุณป้าอาการดีขึ้น แต่ก็ยังทรงๆ อยู่ ยังต้องรอดูตามอาการเป็นระยะ

ระหว่างนั้น ญาติได้ทำพิธีกรรมอื่นๆ ตามแนะนำเพิ่มเติม แต่มีบางอย่างทำไม่ได้เพราะความไม่สะดวกและเป็นเรื่องทางประเพณี

กลางคืนที่ 15 กุมภาพันธ์

ผู้พยากรณ์สังหรณ์ใจอะไรบางอย่าง จึงตรวจดวงชะตาให้ผู้ป่วยอีกครั้ง และพบว่า มีตำแหน่งดาวที่ไม่ค่อยดีนักเกิดขึ้น

แต่ด้วยไม่อาจจะบอกอะไรไปได้มากนัก จึงได้แต่แจ้งญาติไปแต่สั้นๆ ว่า

“ดาวจันทร์ของคุณป้า จะเข้าภาพวินาสน์วันที่ 16 นะคะ ตั้งแต่ 02.23 นาที”

ดาวจันทร์นั้นมีรอบการโคจรทุก 2 วันครึ่ง เมื่อเข้าในตำแหน่งดังกล่าว ในเวลาตีสอง วันที่ 16 กุมภาพันธ์ ก็จะออกจากตำแหน่งนั้นไปในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา 14.16 น.

เวลาที่ควรระวังที่สุดอีกครั้ง จึงเป็นตั้งแต่ 02.23 น. ของวันที่ 16 กุมภาพันธ์ – 14.16 ของวันที่ 18 กุมภาพันธ์

วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2560

เวลา 02.05 น. ญาติผู้ป่วยได้แจ้งข่าวว่า

“คุณป้าไปแล้วค่ะ ตอนตี 1.48 น.”

และผู้พยากรณ์ก็มีอาการเจ็บตาหนักตั้งแต่บัดนั้น

เรื่องที่น่าสนใจ

  1. สุนัขของคุณป้าได้เสียชีวิตลงในระหว่างที่ดาวจันทร์เข้าเรือนวินาสน์
  2. เกี่ยวกับความฝัน คือผู้พยากรณ์ฝันว่า ได้ไปในสถานที่แห่งหนึ่ง ที่ความรู้สึกคือบ้านของผู้ป่วย และมีชายวัยกลางคนคนดังกล่าว รูปร่างสูงใหญ่ ได้ปรากฏตัวขึ้นข้างกำแพงรั้ว ชายผู้นี้ ได้บอกกับผู้พยากรณ์ว่า “ให้เขามาไหว้ มาบอกกล่าวหน่อยสิ ทำอะไรไม่บอกไม่กล่าว ให้มาขอโทษกันหน่อย”
  3. ทางญาติได้แจ้งมาว่า เกี่ยวกับเจ้าที่นั้นมีเค้าลางอย่างมาก เพราะในบริเวณบ้านของคุณป้า ได้มีการก่อสร้างปลูกเรือนใหม่หลังหนึ่ง ซึ่งไม่แน่ใจกันว่า ได้มีการบอกกล่าวเจ้าที่หรือไม่
  4. หลังจากสอบถามเรื่องเจ้าที่ไป ญาติก็ได้ค้นพบว่า มีเสาต้นหนึ่งในบริเวณอาคารบ้านหลังหนึ่ง (เป็นบ้านเดิมของต้นตระกูลคุณป้า) มีการตั้งศาลบูชาขึ้นโดยบุคคลอื่น ที่ไม่ใช่คนในบ้าน และกล่าวว่า เป็นการบูชา “เจ้าที่” ที่มีผู้พบเห็นเข้า
  5. เจ้าที่ ที่มีผู้พบเห็นนี้ มีชื่อเรียกกันด้วยว่า “ท่านขุน…” แสดงว่าน่าจะเป็นเจ้าที่ในระดับเทวดาอารักษ์ ซึ่งแสดงถึงการให้คุณให้โทษขั้นรุนแรงได้
  6. ญาติได้พบกับบุคคลที่เคย “เห็น” เจ้าที่ ที่มาปรากฏตัว โดยได้ยืนยันว่า ได้เห็นเจ้าที่ท่านนั้นมาหลายครั้ง
  7. แต่ญาติเองก็ไม่ทราบว่า เจ้าที่เดิมของบ้าน และเจ้าที่ที่ศาลบูชาใหม่ เป็นตนเดียวกันหรือไม่
  8. ที่ๆ คุณป้าอุบัติเหตุหกล้มนั้น เป็นทางไปเรือนที่สร้างใหม่
  9. เรือนสร้างใหม่ เป็นของบุตรชายที่มีดวงฝาแฝดกับผู้ป่วย
  10. เมื่อเริ่มดูดวงให้กับผู้ป่วย ผู้พยากรณ์เองยังมีอาการไม่มาก แล้วก็หนักขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งพูดไม่ได้ (จนต้องเลื่อนส่งคำพยากรณ์แบบโทรศัพท์ออกไปก่อน)
  11. ในช่วงที่ติดตามอาการของคุณป้านั้น ผู้พยากรณ์ได้สวดมนต์ให้ทุกวัน มีไม่ได้สวดมนต์อยู่ประมาณ 3 วัน ที่เริ่มมีอาการไอหนักขึ้น จนพูดแทบไม่ได้
  12. นอกจากพูดไม่ได้แล้ว ผู้พยากรณ์ยังเจ็บตาเพิ่มในภายหลัง จนไม่สามารถอ่านอะไรได้อีก
  13. แพทย์วินิจฉัยว่าผู้พยากรณ์ ตาอักเสบเพราะติดเชื้อแบคทีเรียรุนแรง และต้องรักษาตากับอาการไอไปพร้อมกัน (ต้องหยุดพูด หยุดอ่าน หยุดดูดวง)
  14. คุณป้าติดเชื้อจากบาดแผลบนใบหน้า ที่ตอนแรกญาติเองไม่ได้สังเกตเห็น คิดว่าแค่รอยฟกช้ำเล็กน้อย
  15. การพยากรณ์เรื่องมรณะยังคงเป็นเรื่องต้องห้าม แต่บางครั้งในฐานะโหรก็ต้องทำตามหน้าที่เมื่อมีผู้ร้องขอ และต้องพยายามออกคำพยากรณ์ให้ดีที่สุด หรือช่วยเหลือทำพิธีกรรมต่างๆ เท่าที่ทำได้ เพื่อให้กำลังใจผู้ป่วยและญาติ เพื่อร่วมกันต่อสู้ให้ดีที่สุด แม้จะต้องรับเคราะห์ร่วมไปด้วยในบางครั้งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ **เคยมีอีกหลายเคสในลักษณะนี้

  16. ในการออกคำพยากรณ์และทำพิธีกรรมต่างๆ เหล่านี้ ไม่มีการเรียกค่าใช้จ่ายใดๆ โดยให้ญาติทำบุญได้เองตามกำลังศรัทธา

  17. มรณกรรมย่อมมาถึงเราทุกคน ควรตั้งไว้ในความไม่ประมาท และแม้ว่าจะมีวิชาที่รู้ฟ้ารู้ดิน รู้ในความลับของจักรราศี แต่วงล้อแห่งกรรม ก็ย่อมดำเนินไปตามเส้นทาง

Comments

comments